วอดก้า ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีความนุ่มละมุน มาพร้อมกับกลิ่นหอมจากผลไม้ สีขาวใส สามารถนำไปผสมผสานกับเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้เครื่องดื่มมีรสชาติที่อร่อย เพราะวอดก้าไม่มีสี ไม่มีกลิ่น จึงสามารถทานคู่กับเครื่องดื่มอื่น ๆ ได้อย่างสบาย ๆ หากใครที่อยากรู้ว่าทางร้านเรามีวอดก้าตัวไหนน่าสนใจ มาพร้อมกับราคาดี ๆ คุณภาพโดน ๆ สามารถตามไปอ่านต่อกันได้เลย
ทำความรู้จัก วอดก้า คืออะไร?
วอดก้า เป็นเหล้าที่มีสีขาวใส ไม่มีกลิ่นและไม่มีรสชาติ หรือวอดก้า รสชาติสำหรับบางตัวจะให้ความติดปลายขม และมีกลิ่นที่บางเบา อีกทั้งยังมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 40 – 60 ดีกรีเลยทีเดียว วอดก้ายังถือว่าเป็นเหล้าที่ไม่ทำให้เมาค้างหรือปวดหัวเวลาดื่ม เพราะถูกผลิตจากเมล็ดข้าว มันฝรั่ง เมล็ดข้าวสาลี เมล็ดข้าวโพด หรือธัญพืชชนิดอื่น ๆ
วอดก้าผลิตจากอะไร มีกระบวนการผลิตอย่างไรบ้าง?
ขั้นตอนการผลิตวอดก้ามีกระบวนการผลิตเริ่มต้นจากการนำเมล็ดข้าวหรือมันฝรั่ง มาหมัก และทำการกลั่นเหล้า ที่สำคัญต้องกลั่นอย่างน้อยอย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไป เพื่อที่จะได้ปริมาณแอลกอฮอล์ที่บริสุทธิ์ รสชาตินุ่มนวล หลังจากนั้นกรองด้วยถ่านและทรายชั้นดี เพื่อช่วยให้วอดก้ามีกลิ่นที่บางเบา สีใส และยังช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมได้อีกด้วย ทั้งนี้วอดก้าบางตัวอาจนำไปทำการแต่งกลิ่น เพื่อให้มีความน่าสนใจและมีความหอมน่าดื่มมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น กลิ่นสตอเบอรี่ กลิ่นเลม่อน กลิ่นส้ม หรือกลิ่นองุ่น บางยี่ห้ออาจผสมสารที่ให้ความหวาน เพื่อให้ดื่มได้ง่ายมากยิ่งขึ้น หรือกลิ่นยอดนิยมอื่นๆ หรือแบบไม่แต่งกลิ่นก็มีให้เลือกเช่นเดียวกัน
วอดก้า มีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้ว วอดก้าถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท นั่นก็คือ
- Natural Vodka / Clear Vodka ถือได้ว่าเป็นวอดก้าที่มีความบริสุทธิ์ สีใสสะอาด และให้กลิ่นที่เบาบาง อีกทั้งยังรสชาติอ่อน ๆ หรือแทบไม่มีเลย
- Flavored Vodka เป็นวอดก้าที่ผ่านการแต่งกลิ่นและรสชาติให้สามารถทานได้ง่ายขึ้น บางตัวใช้การแต่งกลิ่นและรสชาติของเครื่องเทศหรือรากไม้ และอาจเพิ่มสีสันลงไปในวอดก้าอีกด้วย
วอดก้า แรงไหม มีปริมาณแอลกอฮอล์กี่เปอร์เซ็นต์
วอดก้ามีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ประมาณ 35% – 95% ถือว่าสูงมาก เพราะเนื่องจากกระบวนการผลิตวอดก้ามีการกลั่นนำเอาแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ออกมา จึงทำให้ดีกรีค่อนข้างสูง ซึ่งส่วนใหญ่แล้ววอดก้าจะไม่มีกลิ่นและไม่มีสี หรือมีกลิ่นเพียงเล็กน้อย และวอดก้าที่มีดีกรีมาตรฐานตามท้องตลาด ส่วนใหญ่จะมีปริมาณแอลกฮอล์อยู่ที่ประมาณ 40%
วอดก้า ยี่ห้อไหนดี แต่ละตัวรสชาติยังไง?
หลายคนคงตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกวอดก้า ยี่ห้อไหนดี เพราะด้วยวอดก้าเป็นสินค้าที่มีหลากหลายยี่ห้อ ราคาบางตัวก็มีความแตกต่างกันออกไป รวมไปถึงบางข้อสงสัยที่ถามว่ารสชาติ สี กลิ่นของวอดก้าก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักและแนะนำ 12 วอดก้าที่มีความน่าสนใจ ดังนี้
1.วอดก้า Grey goose
ถือเป็น Luxury Vodka ที่ผลิตจากแคว้น Cognac ประเทศฝรั่งเศส ผลิตจากข้าวสาลี ผสมผสานกับน้ำแร่ และถูกยกย่องให้เป็นวอดก้าที่มีรสชาติดีเยี่ยมที่สุดของโลก อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ที่ขายดีที่สุดในอเมริกา เจ้าตัวนี้มีกลิ่นหอมของดอกไม้อ่อน ๆ และกลิ่นของวานิลา
2.วอดก้า Smirnoff Cranberry
เป็นเหล้าวอดก้าที่กลั่นมาจากมันฝรั่งผสมเมล็ดข้าว ให้สีที่มีความขาวใสบริสุทธิ์ แต่จะมีกลิ่นหอมและรสชาติแครนเบอรี่ ให้ปริมาณแอลกอฮอล์ 37.50-40% ให้ความอร่อยได้อย่างลงตัว
3.วอดก้า Absolut Vodka
เป็นวอดก้าชั้นเยี่ยมระดับของโลก มีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศสวีเดน ให้รสชาติและรสสัมผัสที่โดดเด่น ไม่ว่าจะดื่มแบบไหนก็ได้ เช่น ดื่มเพียว ๆ แบบไม่ผสม หรือจะผสม Mixer น้ำผลไม้หรือน้ำอัดลม และยังทำเป็นการดื่มแบบช็อตที่ผสมมะนาวและเหลือหน่อย ๆ เพิ่มเพิ่มรสชาติ แต่สำหรับร้านเหล้าหรือผับส่วนใหญ่จะนิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม Cocktail
4.วอดก้า Belvedere Vodka
ถือเป็นวอดก้าระดับซูเปอร์พรีเมียมรายแรกของโลก โดนกลั่นมาจากจาก Dankowskie Gold Rye ที่ดีที่สุด ทำให้ได้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และที่สำคัญปราศจากสารเติมแต่ง จึงทำให้กลายมาเป็นวอดก้าระดับต้น ๆ ของโลกเลยก็ว่าได้
5.วอดก้า Tito’s Handmade
ตัวนี้ถือได้ว่าเป็นวอดก้าแฮนด์เมดของ Tito เพราะมีขั้นตอนการผลิตที่ถูกกลั่นออกมาแบบเช่นเดียวกับคอนยัคฝรั่งเศส ที่สำคัญเป็นเหล้าวอดก้าที่มีอายุยาวนานมากกว่า 10 ปี และยังถูกใช้ทำเครื่องดื่มอย่างค็อกเทลแทบจะทุกเมนู
6.วอดก้า Ketel One
เป็นวอดก้าจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ข้อดีของเจ้าตัวนี้คือมีราคาที่ไม่แพง เนื้อเนียนนุ่ม และยังให้รสชาติที่เข้มข้น ผลิตจากข้าวสาลีทั้งหมด ให้ความโดดเด่นเป็นพิเศษเมื่อถูกนำไปผสมผสานกับเครื่องดื่มอย่างค็อกเทล
7.วอดก้า J.J.Artisanal Vodka
วอดก้าจากประเทศรัสเซีย เป็นสูตรพิเศษที่นำน้ำบริสุทธิ์ตามธรรมชาติจากบ่อบาดาลลึกบ่มทำให้ได้รสชาติที่ละเอียดอ่อน มีความนุ่มนวล อีกทั้งยังสามารถช่วยยกระดับความอร่อยและแปลกใหม่ได้อย่างลงตัว
8.วอดก้า Red Square Vodka
ผลิตจากวอดก้าเรดสแควร์บริสุทธิ์ 100% โดยมีกระบวนการผลิตที่ผ่านการกรองมากถึงสามชั้น ที่สำคัญยังใช้การกลั่นด้วยคาร์บอน และกลั่นไม่ต่ำกว่าเจ็ดครั้ง ทำให้ได้วอดก้าที่ใสสะอาดสมบูรณ์ และยังได้รสสัมผัสที่นุ่มละมุม ไม่บาดคออีกด้วย
9.วอดก้า Kulov
ถือได้ว่าเป็นวอดก้าที่นิยมในประเทศไทยเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากจะมีราคาถูกและสามารถจับต้องได้แล้วนั้น ยังเป็นวอดก้าที่มีคุณภาพอีกด้วย เพราะเจ้าตัวนี้ผ่านขั้นตอนการกลั่นมากถึง 6 ครั้ง อีกทั้งยังผ่านการกรองด้วยถ่านชาร์โคลเพิ่มอีก 1 ครั้ง เพื่อได้วอดก้าที่มีสีใสบริสุทธิ์ ปราศจากกลิ่น และให้รสชาติที่นุ่มลื่นคอ
10.วอดก้า Beluga Noble
Beluga Noble Vodka มีการปรุงแต่งเพิ่มเติมจากกลีเซอรีน เพื่อให้วอดก้าที่ออกมามีสัมผัสนุ่มนวลขึ้น และทำการกลั่นด้วยข้าวโอ๊ต น้ำผึ้ง นมและธัญพืช ให้มีสีใส และให้รสชาติออกหวานเล็กน้อย และหอมกลิ่นวานิลลาอ่อน ช่วยเสริมให้รสชาติน่าดื่มขึ้น
11.วอดก้า 42Below
เป็นวอดก้าที่มีส่วนผสมของน้ำแร่มาเป็นตัวช่วยกรอง ทำให้วอดก้ามีรสชาติที่คงความบริสุทธิ์ และให้ปริมาณแอลกอฮอลล์อยู่ที่ 42% ให้รสชาติกลมกล่อม ไร้สีและไร้กลิ่น อีกทั้งยังสามารถหาซื้อได้ง่าย
12.วอดก้า Reyka
เป็นวอดก้าที่มาจากประเทศไอซ์แลนด์ ใช้น้ําฤดูใบไม้ผลิจากน้ําแข็งไอซ์แลนด์ที่บริสุทธิ์ จึงทําให้ Reyka เป็นหนึ่งในวอดก้าที่ดีที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีราคาไม่แพงสามารถดื่มง่าย ไม่บาดคอ ที่สำคัญยังเป็นที่นิยมในปัจจุบันแต่แอบมีดีกรีที่สูงอยู่เหมือนกัน
สำหรับใครที่กำลังตามหาวอดก้ายี่ห้อไหนดี ที่ SIAMSIPS มีวอดก้าหลากหลายยี่ห้อ และยังมีเหล้านอกแบรนด์อื่น ๆ ให้เลือกอีกมากมาย หากสนใจสามารถกดสั่งซื้อคลิกนี้ได้เลย รับรองว่าจะได้ราคาที่ถูกใจอย่างแน่นอน!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวอดก้ายี่ห้อไหนดี
วอดก้าผสมกับอะไรอร่อย
การดื่มวอดก้าที่อร่อยจะต้องดื่มแบบเดียว ๆ หรือผสมเหลือและน้ำมะนาวเล็กน้อย หรือบางคนอาจจะผสมกับโซดา เพื่อเพิ่มความซ่าและสดชื่น รับรองว่าสูตรนี้จะช่วยให้ดื่มได้อย่างลื่นคอตลอดทั้งคืนอย่างแน่นอน
วอดก้า กับ เหล้า ต่างกันยังไง
เหล้าวอดก้ามีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของขั้นตอนการผลิต การหมักบ่ม และการกลั่น วัตถุดิบในการผลิตวอดก้าจะผลิตมาจากกากน้ำตาลของมันฝรั่งและธัญพืช ส่วนเหล้าจะผลิตมาจากการหมักน้ำตาลจากข้าว องุ่น ข้าวโพด และยีสต์เป็นหลัก
วอดก้าต้องแช่ตู้เย็นไหม
โดยส่วนมากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่จำเป็นต้องแช่เย็น แต่วอดก้าหากแช่เย็นแล้วจะให้รสชาติดีที่สุด เมื่อแช่ในอุณหภูมิที่เย็นจัด เพื่อเพิ่มรสชาติและสามารถดื่มได้ง่ายขึ้น