แชมเปญ ราคาถูกสุด แหล่งรวมแบรนด์เหล้า แชมเปญชั้นนำระดับโลก พร้อมส่งถึงบ้าน ในราคาสุดคุ้ม

แชมเปญ คือ ไวน์ที่มีต้นกำเนิดในแคว้นช็องปาญ (Champagne) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของปารีส จึงเป็นที่มาของชื่อเรียก แชมเปญ ในภาษาอังกฤษ และชองปาญ ในภาษาฝรั่งเศส โดยแชมเปญ ถือเป็นเครื่องดื่มประเภท Sparking Wine หรือไวน์ที่มีฟอง มีความซ่าและให้ความสดชื่น

แล้วอะไรคือความแตกต่างระหว่างแชมเปญกับ Sparking Wine ทั้ง ๆ ที่แชมเปญจัดเป็นเครื่องประเภท Sparking Wine คำตอบก็คือ แหล่งผลิตและแหล่งเพาะปลูกองุ่นที่ใช้ในการผลิตแชมเปญนั่นเอง ตามกฎหมายแล้ว ไวน์ใด ๆ ที่จะเรียกว่า แชมเปญได้จะต้องผลิตในแคว้นช็องปาญและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดมากมาย เช่น แชมเปญต้องผลิตจากองุ่น Chardonnay, Pinot Noir และ Pinot Meunier เท่านั้น และต้องบ่มในขวดเป็นเวลาอย่างน้อย 15 เดือน ส่วนแชมเปญที่ผลิตในพื้นที่อื่น จะเรียกว่า Sparking Wine แทน

สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ หรือกำลังมองหาแชมเปญขวดพิเศษฉลองวันสำคัญ SIAMSIPS รวบรวมมาให้แล้ว กับ 10 ยี่ห้อ แชมเปญขึ้นชื่อ ที่นักดื่มต่างรีวิวว่า เลิศรส รสชาติครบเครื่อง ทั้งความสดชื่น หอมหวาน กลมกล่อม สมฉายาราชาแห่งไวน์ พร้อมสรุปแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง

หนึ่งในยี่ห้อ แชมเปญยอดนิยมในไทย โดดเด่นด้วยรสชาติหอมหวานอมเปรี้ยวจากแอปเปิ้ล ลูกแพร์ ลูกพีช ส้มแมนดาริน ดอกไม้สีขาว (เช่น มะลิ) บริยอช (ขนมปังฝรั่งเศส) ให้ฟิลลิ่งสดชื่น ดื่มง่าย มีฟองที่นุ่มละมุน เหมาะสำหรับดื่มเป็นเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย หรือจะทานคู่กับอาหารทะเล อาหารรสอ่อน หรืออาหารญี่ปุ่นก็เข้ากันได้อย่างลงตัว

อีกหนึ่งแชมเปญเลิศรสที่ผลิตจากองุ่นสายพันธุ์ Chardonnay 100% จากไร่องุ่น Premier Cru ใน Montagne de Reims ทำให้แชมเปญมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากดอกไม้สีขาว เพิ่มความสดชื่นด้วยกลิ่นจากเลมอน แอปเปิ้ล ลูกแพร์ ลูกพีช และส้มแมนดาริน ผสมผสานความอบอุ่นละมุนลิ้นด้วยอัลมอนด์ จะเลือกดื่มเป็นเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย หรือจะดื่มคู่กับชีส อาหารทะเล ก็ให้รสชาติอร่อยไม่แพ้กัน

เป็นแชมเปญที่มีกลิ่นอายฝรั่งเศสอย่างชัดเจน ผลิตจากองุ่น 3 สายพันธุ์ ได้แก่ Chardonnay (50%), Pinot Noir (35%), และ Pinot Meunier (15%) ให้ความสดชื่นจากรสชาติและกลิ่นของเลมอน ส้มแมนเดอริน ผสมผสานกับแอปเปิ้ลเขียวและกลิ่นดอกไม้ขาว ให้เนื้อสัมผัสละมุนลิ้น เพิ่มดีกรีความน่าหลงใหล จนเป็นหนึ่งในแชมเปญที่หลายคนติดใจในรสชาติจนต้องกลับซื้อซ้ำ

อีกหนึ่งแชมเปญสุดหรูจากฝรั่งเศส กับรสชาติพรีเมียมเกินราคา ด้วยรสสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร นุ่มละมุนจากน้ำผึ้ง เสริมกลิ่นหอมหวานจากลูกพีช และซากุระ เพิ่มความสดชื่นเบา ๆ ด้วยผลไม้รสเปรี้ยวอย่างสับปะรด ผสมผสานความลงตัวด้วยขนมปังบริยอช เฟรนช์โทสช์ และอัลมอนด์ ปิดท้ายด้วยผลไม้ตระกูลซิตรัสและพริกไทย แถมยังมีฟองละเอียดช่วยให้นักดื่มได้เพลิดเพลินกับรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครได้

เป็นแชมเปญที่มีความคล้ายกับเหล้า แต่มีความหวานอ่อน ๆ เนื้อสัมผัสไม่แห้ง แฝงด้วยความสดชื่น พร้อมกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์จากส้มซิตรัส อัลมอนด์ และขนมปังบริออช เป็นอีกหนึ่งแชมเปญที่ให้รสชาติสุดคลาสสิก หรูหราสไตล์ชนชั้นสูง ในราคาสบายกระเป๋า

หนึ่งในแชมเปญชั้นนำของฝรั่งเศส มีกลิ่นหอมสดชื่นผลไม้สดนานาชนิด ทั้งลูกพีช แอปริคอต ลิ้นจี่ และสับปะรด เพิ่มความหวานละมุนด้วยกลิ่นหอมของวานิลลา ปิดท้ายด้วยกลิ่นน้ำผึ้ง ผลไม้อบแห้ง และกลิ่นคาราเมล รสชาติเข้มข้นและกลมกล่อมไปพร้อม ๆ กัน เหมาะทานคู่กับอาหารประเภทปลาและเนื้อหมักได้เป็นอย่างดี

อีกหนึ่งแชมเปญขึ้นหิ้งสุดคลาสสิกที่หลายคนใฝ่ฝัน ด้วยกลิ่นหอมหวานจากดอกไม้และผลไม้สุก เพิ่มความหวานอมเปรี้ยวด้วยผลไม้กลุ่มซิตรัส เสริมความลงตัวด้วยผลไม้ตากแห้งอย่าง ฮาเซลนัท มาร์ซิปาน นูกาต์ ปิดท้ายความหวานจากธรรมชาติด้วยน้ำตาลที่ทำมาจากข้าวบาร์เลย์ ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว และสดชื่นในเวลาเดียวกัน

แชมเปญรุ่นพิเศษของทางแบรนด์ โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมแบบ Aromatic aroma จากผลไม้สุกอย่าง ลูกพีช ส้มแมนดาริน มะม่วง ดอกสายน้ำผึ้ง ดอกมะลิ เสริมความนุ่มนวลด้วยกลิ่นผลไม้คั่วแห้ง เช่น อัลมอนด์ อินทผลัมแห้ง และเกาลัด ผสมผสานกับรสชาติบิสกิต ให้รสชาตินุ่มแต่แน่น สดชื่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เป็นแชมเปญที่ใช้เวลาในการผลิตนานถึง 15 ปี คัดสรรองุ่นสายพันธุ์ Chardonnay & Pinot Noir ที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้แชมเปญ รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม และยังมีกลิ่นหอมจากพีช เพิ่มความนุ่มลึกด้วยวานิลลา ยิ่งขับให้แชมเปญ Dom Pérignon P2 มีรสชาติและรสสัมผัสโดดเด่นไม่เหมือนใคร

ปิดท้ายด้วยแชมเปญระดับตำนานที่นักดื่มไวน์และนักวิจารณ์ไวน์ต่างยกให้เป็นหนึ่งในสุดยอดแชมเปญ โดยให้คะแนน 100/100 ในแมกกาซีน Wine & Spirits เมื่อปี 2002 แม้ผ่านเวลามานานกว่า 20 ปี แต่ก็ยังเป็นแชมเปญที่นักดื่มต่างพูดถึงอยู่เสมอ ด้วยกลิ่นหอมสดชื่น และรสชาติละเอียดอ่อนนุ่มลิ้น จากผลไม้ตระกูลส้ม ดอกไม้ และกลิ่นหอมจากเฮเซลนัท ผสมรสหวานกลมกล่อมของน้ำผึ้ง การันตีคุณภาพและรสชาติดีเลิศด้วยคะแนนนักวิจารณ์ไวน์ทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ แชมเปญ ราคาในไทย อาจแตกต่างกันไปจากหลายปัจจัย ขึ้นอยู่กับปีที่ผลิต ขนาด โปรโมชั่น และร้านค้า แนะนำให้ศึกษาข้อมูล และเปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า สั่งซื้อเหล้า แชมเปญ คุณภาพระดับพรีเมียมนำเข้าจากต่างประเทศ ในราคาถูกที่สุดกับเรา SIAMSIPS

แชมเปญสามารถแบ่งได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการผลิต ซึ่งจะมีอยู่ 3 เกณฑ์ ได้แก่ แบ่งตามประเภทองุ่นที่ใช้ในการผลิต แบ่งตามระยะเวลาการหมักบ่ม และแบ่งตามความหวานของแชมเปญ

การผลิตเหล้า แชมเปญหลัก ๆ จะใช้องุ่น 3 สายพันธุ์ ได้แก่ Chardonnay, Pinot Noir และ Pinot Meunier ซึ่งแต่ละสายพันธุ์จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป โดยสามารถแบ่งประเภทองุ่นที่ใช้การผลิตได้ 3 ประเภท

ใช้องุ่นขาว 100% ส่วนใหญ่จะใช้พันธุ์ Chardonnay โดยสามารถเลือกได้ว่าจะผสมกับองุ่นพันธุ์ Pinot Blanc, Petite Meslier และ Arbane เพื่อให้แชมเปญ รสชาติแตกต่างจากเดิม หรือจะไม่ผสมก็ได้เช่นกัน โดยแชมเปญประเภทนี้จะมีรสสัมผัสนุ่มนวล

ใช้องุ่นแดง 100% ส่วนใหญ่จะเลือกใช้สายพันธุ์ Pinot Noir ผสมกับ Pinot Meunier มีกลิ่นและรสชาติของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

ใช้วิธีการผลิต 2 ได้แก่

• saignée : เป็นการเอาเปลือกองุ่นแดงแช่ในน้ำองุ่นใสขององุ่นแดงในระยะเวลาสั้น ๆ ให้รสฝาดโดยสีน้ำองุ่นจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน
• d’assemblage : เป็นวิธีผลิตที่ได้รับความนิยมกว่า ด้วยการผสมไวน์แดงเล็กน้อยลงใน Sparkling wine มีรสชาติของผลไม้สีแดง (Red Fruit) และสตรอว์เบอร์รี่

ส่วนวิธีการแบ่งประเภทไวน์ แชมเปญตามระยะเวลาในการหมักบ่ม จะขึ้นอยู่กับวิธีการเลือกองุ่นที่ใช้ในการผลิต และระยะเวลาในการหมักบ่ม ซึ่งแต่ละประเภทจะมีรสชาติและวิธีการที่แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งได้ 3 ประเภท

ผลิตจากองุ่นที่เก็บเกี่ยวในปีเดียวกัน ใช้ระยะเวลาในการหมักบ่มอย่างน้อย 3 ปี เนื่องจาก องุ่นแต่ละปีจะมีรสชาติที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และสภาพอากาศในปีนั้น

เป็นแชมเปญที่ใช้องุ่นหลายปี ผสมตามสูตรของแบรนด์ เพื่อให้รสชาติที่ได้มีมาตรฐานเดียวกันทุกขวด และใช้เวลาในการหมักบ่มไม่เกิน 15 เดือน

เป็นแชมเปญที่ผ่านกระบวนการผลิตองุ่นคุณภาพดีอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่การคั้นองุ่นในน้ำแรก หรือ Cuvée จากองุ่นคุณภาพดีที่สุด ซึ่งมีปริมาณน้อยมากในแต่ละปี ทำให้แชมเปญ Cuvée de prestige เป็นแชมเปญ ราคาแพงที่สุดนั่นเอง ทั้งนี้ แชมเปญประเภทนี้สามารถหมักบ่มได้ทั้งรูปแบบ Non-vintage หรือ Vintage ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นรูปแบบ Vintage

โดยทั่วไป แชมเปญ จะมีความสดชื่น ซาบซ่า ผสมกับกลิ่นหอมของผลไม้อย่างลูกพีช เชอร์รี่ เลมอน และแอปเปิ้ลเขียว ดอกไม้ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีรสชาติแตกต่างกันไปขึ้นอยู่หลายปัจจัยทั้งจากสายพันธุ์องุ่น วิธีการผลิต ระยะเวลาการหมักบ่ม และระดับความหวานของแชมเปญ ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อแชมเปญดี ๆ สักขวด จึงควรเลือกตามรสนิยม งบประมาณ และสถานการณ์ที่ต้องการใช้แชมเปญเป็นอันดับแรก โดยมีรายละเอียดสำคัญที่ควรรู้ ดังนี้

• Chardonnay : รสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อม ให้ความสดชื่น จนได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งองุ่น
• Pinot Noir : มีกลิ่นหอมเครื่องเทศ และกลิ่นของผลไม้สีแดง
• Pinot Meunier : ให้รสชาติและกลิ่นของผลไม้

• การหมักบ่มไวน์ แชมเปญในถังไม้โอ๊คจะเพิ่มรสชาติของวานิลลาและเครื่องเทศให้กับแชมเปญมากยิ่งขึ้น

• เหล้า แชมเปญที่บ่มนานจะมีรสชาติที่ซับซ้อน กลมกล่อมกว่า

• แชมเปญที่มีระดับความหวานสูงจะดื่มง่ายกว่า

แชมเปญ กินคู่กับอะไรถึงจะอร่อย จริง ๆ แล้วแชมเปญเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ช่วยชูรสชาติอาหารให้อร่อยมากยิ่งขึ้นได้ โดยมีเกณฑ์ในการจับคู่อาหารจากระดับหวานและสายพันธุ์องุ่นที่ใช้ในการผลิตแชมเปญ ซึ่งจะมีรายละเอียด ดังนี้

เป็นแชมเปญ รสชาติไม่หวานมาก เหมาะสำหรับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาหารเรียกน้ำย่อย และอาหารรสอ่อน

เป็นแชมเปญ รสชาติหวานเบา ๆ เหมาะจับคู่กับเมนูอาหารประเภทอาหารทะเล อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารประเภทเนื้อสัตว์ และของทอดต่าง ๆ

รสหวานกลมกล่อม เหมาะกินคู่กับอาหารทะเล และของหวาน

รสชาตินุ่มนวล เหมาะกินคู่กับอาหารทะเลที่มีกลิ่นคาวมาก และอาหารประเภทเนื้อปลา เช่น ไข่คาเวียร์ หอยนางรมสด

เป็นแชมเปญที่มีกลิ่นหอมหวานของผลไม้ เหมาะกินคู่กับอาหารทุกประเภท ทั้งอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาหารทะเล อาหารที่มีรสจัด หรืออาหารประเภทเนื้อปลาที่มีไขมันสูงก็เข้าได้กันเป็นอย่างดี

• แช่เย็นแชมเปญในอุณหภูมิ 4-6 องศาเซลเซียส ประมาณ 2-3 ชั่วโมงก่อนเปิด
• พันผ้าขนหนูรอบขวดแชมเปญเพื่อป้องกันเศษแก้วกระเด็น
• นำฟอยล์ที่ห่อหุ้มบนจุกก๊อกออก บิดห่วงโลหะ เพื่อคลายลวดโลหะรอบจุกก๊อก และไม่จำเป็นจะต้องเอาขดลวดออกทันที เนื่องจาก จุกก๊อกอาจจะพุ่งออกมาก่อนที่จะเปิดขวด
• ถือไม้ก๊อกด้วยมือซ้าย เอียงขวดแชมเปญ 45 องศา ชี้ไปทางที่ปลอดภัย ค่อย ๆ หมุนขวดช้า ๆ
• ค่อย ๆ เปิดจุกคอร์ก ปล่อยให้คาร์บอนไดออกไซด์ไหลออกอย่างช้า ๆ เปิดให้มีเสียงเบาที่สุด
• เทแชมเปญลงในแก้วอย่างช้า ๆ ระวังอย่าให้เกิดฟองมาก

1. เก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิ 12-15 องศาเซลเซียส
2. วางขวดตามแนวนอนเพื่อไม่ให้จุกคอร์กแห้ง ซึ่งจะทำให้เกิดการหดตัวของจุกคอร์ก และทำให้แชมเปญเสียจากแบคทีเรียได้