คัมภีร์ ไวน์มีกี่ประเภท แนะนำไวน์แบบไหนกินกับอะไรแล้วอร่อย!

ไวน์เป็นเครื่องดื่มที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก ไม่เพียงแต่เฉพาะนักดื่มเท่านั้นที่ชื่นชอบรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของไวน์ ไวน์ยังถูกนำมาใช้ในวงการทำอาหารและเบเกอรี่ และมีคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพหลายประการที่ถูกใจกลุ่มคนรักสุขภาพอีกด้วย บทความนี้จะไปรู้จักประเภทของไวน์ ไวน์มีกี่ประเภท มีความแตกต่างกันอย่างไร 

ประเภทของไวน์ ไวน์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง? 

ไวน์มีอยู่ด้วยกันหลากหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นสีสัน ลักษณะ รสชาติ หรือกรรมวิธีการผลิต โดยสามารถแบ่งประเภทของไวน์เป็น 5 ประเภทหลักได้ดังต่อไปนี้

ไวน์แดง

ไวน์แดงเป็นไวน์ที่มาจากการหมักด้วยน้ำองุ่นที่มีสีเข้ม โดยกระบวนการหมักจะหมักบ่มทั้งเปลือก เมล็ดและขั้วองุ่น จึงทำให้ไวน์แดงมีสีแดงหลากหลายเฉดสีตั้งแต่แดงทับทิม สีแดงโกเมน สีม่วงทึบ ไวน์แดงจะหมักที่อุณหภูมิสูงเพื่อสกัดเอาสี กลิ่น และรสฝาดของเทนนินออกมา  ไวน์แดงมีความเป็นกรดค่อนข้างน้อย ให้รสชาติผลไม้ชัดเจน ไวน์แดงที่ผลิตมาจากแหล่งผลิตต่างกันมักมีรสชาติไวน์แต่ละชนิดและกลิ่นที่แตกต่างกัน ซึ่งวิธีดื่มไวน์แดงมีหลากหลาย  ไวน์แดงส่วนใหญ่นิยมนำมากินคู่กับอาหารที่ทำจากเนื้อแดง เพราะความฝาดของไวน์ช่วยตัดกับความมันเลี่ยนของเนื้อสัตว์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นเทนนินในไวน์แดงยังช่วยให้เนื้อนุ่ม เคี้ยวง่าย โดยองุ่นสายพันธ์ุยอดนิยมที่นำมาทำเป็นไวน์แดงได้แก่

• Cabernet  Sauvignon เป็นสายพันธ์ุยอดนิยมที่นักดื่มไวน์ต้องรู้จัก และเป็นไวน์ที่ถูกปากนักดื่มชาวไทย มีเทนนินค่อนข้างสูงจึงมีความฝาด  ให้รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม มี acidity ปานกลาง ให้กลิ่นผลไม้จำพวก blackcurrant, blackberry กลิ่นโอ๊ก กาแฟคั่ว ช็อกโกแลต 
• Merlot เป็นไวน์ที่นิยมนำมาเบลนด์กับ Cabernet  Sauvignon ให้ไวน์ที่มีความเข้มข้น มีเทนนินค่อนข้างสูง จึงมีรสฝาด ไม่เปรี้ยวมากนัก มีกลิ่นหอมหวานของผลไม้จำพวกเชอร์รี ผลไม้กลุ่มเบอร์รี่ และกลิ่นโอ๊ก
• Shiraz มีเทนนินสูงมาก จึงให้รสชาติไวน์แดงที่ฝาด มีสีเข้มโทนม่วง รสชาติไม่เปรี้ยวมากนัก เข้ากันได้ดีมากกับอาหารประเภทบาร์บิคิวเนื้อ หมู ไก่
• Sangiovese เป็นองุ่นที่ปลูกมากในประเทศอิตาลี มีเทนนินค่อนข้างสูง และมี acidity สูง ให้กลิ่นเชอร์รี ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อาจมีกลิ่นของเครื่องเทศปนอยู่ด้วย เข้ากันได้กับอาหารหลากหลายประเภท
• Pinot Noir เป็นไวน์ที่มีความเบาบาง มีเทนนินไม่สูง จึงดื่มได้ง่าย มี acidity สูง มีรสชาติออกเปรี้ยว ให้ความสดชื่น มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ของผลไม้และดอกไม้นานาพันธ์ุ มีกลิ่นของโอ๊กเจืออยู่ด้วย

ไวน์ขาว

ไวน์ขาวเป็นไวน์ที่หมักบ่มจากองุ่นสีเขียว หรืออาจใช้องุ่นสีม่วง หรือองุ่นดำที่เอาเปลือกออกก่อนการหมักบ่ม ไวน์ขาวเป็นของเหลวที่มีสีขาวออกครีม สดใส มีเทนนินน้อยมาก มีความเป็นกรดสูง รสชาติไวน์ขาวจึงให้ความสดชื่นของผลไม้เมืองร้อน บางยี่ห้อให้กลิ่นครีมมี่คล้ายวนิลลา ไวน์ขาวเข้ากันได้ดีมากกับอาหารที่มีรสชาติเผ็ด เปรี้ยว และอาหารทะเล ปกติแล้วไวน์ขาวมักเสิร์ฟแบบเย็นจัด ความเปรี้ยวเย็นของไวน์ขาว จึงช่วยตัดรสอาหารที่มีรสจัดและลดความคาวของอาหารทะเลได้เป็นอย่างดี อาหารที่ควรทานคู่กับไวน์ขาว เช่น สเต๊กปลา อาหารทะเล ขนมปังขาว และชีส โดยสายพันธุ์องุ่นที่นิยมนำมาใช้การผลิตไวน์ขาวได้แก่

• Sauvignon Blanc เป็นสายพันธ์ุองุ่นที่นิยมนำมาใช้ในการทำไวน์ขาว มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส และเป็นองุ่นสายพันธุ์ต้นกำเนิดขององุ่นแดงอย่าง Cabernet Sauvignon นอกจากนั้นยังนิยมปลูกในประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศแอฟริกาใต้ รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของไวน์ขาวที่ผลิตมาจากองุ่นสายพันธุ์นี้จะให้ความสดชื่น ให้รสชาติของผลไม้เมืองร้อนที่สุกฉ่ำ เช่น เสาวรส กูสเบอร์รี่ มีรสเปรี้ยว สามารถดื่มได้ง่าย และมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว กินกับอาหารได้หลายประเภท เช่น ปลา อาหารที่มีเครื่องเทศ สลัดผักนานาชนิด 
• Chardonay เป็นสายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชินีแห่งองุ่นขาวที่นักดื่มคุ้นเคยและได้ยินชื่อนี้กันบ่อยครั้ง  ได้รับความนิยมในการนำมาผลิตเป็นไวน์ขาวเพราะให้รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่หลากหลายตามพื้นที่ที่ใช้ในการเพาะปลูก รวมทั้งการหมักบ่มในถังไม้โอ๊ก ไวน์ขาวจาก Chardonay  มีระดับ acidity ต่ำถึงปานกลาง ให้ความครีมมี่ รสชาติไม่เปรี้ยวมากจนเกินไป เหมาะกับผู้ที่ไม่ชื่นชอบไวน์ที่มีรสเปรี้ยวมากนัก ให้กลิ่นผลไม้ชัดเจน เช่น มะพร้าวคั่ว แอปเปิล สับปะรด วานิลลา นมและเนย เข้ากับอาหารได้หลายประเภท 

• Riesling เป็นสายพันธ์ุองุ่นที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเยอรมนี ให้ไวน์ขาวที่มีรสชาติหลากหลาย มี acidity ค่อนข้างสูง ให้รสชาติบางเบา ดื่มง่าย ให้ความสดชื่น เป็นไวน์ที่มีกลิ่นหอมหวานของดอกไม้ ผลไม้ รวมทั้งกลิ่นน้ำผึ้งที่โดดเด่น เหมาะกับอาหารรสจัด ชีส อาหารไทยรสเผ็ด เพราะช่วยตัดเลี่ยนและลดความเผ็ดได้ดี 
• Chenin Blanc เป็นสายพันธ์ุองุ่นที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส จากนั้นจึงถูกนำไปปลูกในหลายประเทศทั่วโลก จึงเป็นไวน์ที่ค่อนข้างมีความหลากหลาย ตั้งแต่แบบ dry แบบหวานติดปลายลิ้น หรือหวานจัด เนื่องจากเป็นไวน์ที่มี acidity ค่อนข้างสูง จึงมีการปรับรสชาติเพื่อให้ดื่มได้ง่ายขึ้น มีความหนักกว่า Riesling เล็กน้อย มีความครีมมี่ ให้กลิ่นผลไม้จำพวก แอปเปิล มะนาว ลูกแพร์ เมลอน แต่ไม่ชัดมากนัก อาหารที่เข้ากันได้ดีได้แก่อาหารพวกเครื่องเทศ อาหารรสจัด อาหารเอเชีย ชีส ปลาเนื้อขาว อาหารเรียกน้ำย่อย เป็นต้น

ไวน์โรเซ่ 

ไวน์โรเซ่เป็นไวน์ที่ผลิตมาจากองุ่นเขียว ดำ หรือแดง ก็ได้ เป็นไวน์ที่ใช้เวลาในการหมักบ่มคล้ายกับไวน์แดงแต่ใช้เวลาไม่นานประมาณ 12-36 ชั่วโมง หรือไม่เกิน 3-4 วันเท่านั้น เมื่อได้น้ำองุ่นที่ออกเป็นสีชมพูจึงกรองเอาส่วนของเปลือก และเศษต่างๆ ออก เพื่อไม่ให้มีสีที่เข้มเหมือนกับไวน์แดง การหมักบ่มจะใช้อุณหภูมิไม่สูงมาก แล้วจึงนำมาเบลนด์กับไวน์ขาว จึงได้ไวน์ที่เป็นของเหลวสีชมพูอ่อนคล้ายสีของดอกกุหลาบ ไม่เป็นสีแดงเข้มเหมือนกับไวน์แดง ไวน์ชนิดนี้มีความเป็นกรดปานกลางค่อนไปสูง มีเทนนินน้อยกว่าไวน์แดง ให้รสชาติความเป็นผลไม้อย่างชัดเจน มีความฝาดต่ำจึงเป็นไวน์ที่ดื่มได้ง่าย มีรสออกหวาน เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นดื่มไวน์ ด้วยรสชาติที่เบาบางกว่าไวน์แดง จึงนิยมกินคู่กับอาหารที่รสไม่จัดมากเช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อาหารจำพวกชีส 

สปาร์คกลิ้งไวน์

สปาร์คกลิ้งไวน์หรือไวน์มีฟอง เป็นไวน์ที่มีกระบวนการผลิตยุ่งยากกว่าไวน์ประเภทอื่น เพราะต้องทำให้ไวน์เกิดฟองขึ้นมาซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของไวน์ประเภทนี้  โดยฟองของสปาร์คกลิ้งไวน์อาจเกิดขึ้นเองจากกระบวนการหมัก หรือเกิดจากการเติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์บริสุทธิ์เข้าไปในไวน์ให้มีความซ่า ให้รสชาติสดชื่น มีทั้งสีขาว แดง ชมพู ผลิตมาจากองุ่นหลากหลายสายพันธ์ุ จึงให้รสชาติที่แตกต่างกัน นิยมดื่มแบบเย็นจัดช่วยเพิ่มความสดชื่น กินคู่กับอาหารได้หลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารทะเล หรือสลัดต่างๆ 

ไวน์หวาน

ไวน์หวานเป็นไวน์ที่มีรสชาติหวานตามชื่อเนื่องจากเป็นไวน์ที่มีน้ำตาลหลงเหลือจากกระบวนการหมักบ่มมากกว่าไวน์ประเภทอื่น ผลิตจากน้ำองุ่นที่คั้นมาจากองุ่นที่สุกเต็มที่และแห้งคาต้นทิ้งไว้ประมาณ 2 เดือน หรืออาจใช้วิธีการนำเอาผลองุ่นมาตากแดดจนแห้งเกือบเป็นลูกเกด มีความเป็นกรดค่อนข้างน้อย มีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำ จึงยังคงรสชาติของความหวานอยู่ ทำให้ดื่มได้ง่าย และกินคู่กับอาหารประเภทไหนก็ได้ทั้งอาหารคาวและขนมหวาน เช่นเนื้อรมควัน เบเกอรี่ ช็อกโกแลต รวมไปถึงยังเข้ากันได้กับผลไม้ทุกประเภท

หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมไวน์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง ราคาไวน์แต่ละประเภท สามารถสอบถามได้ที่ SIAMSIPS เราเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลากหลายยี่ห้อชั้นนำจากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นไวน์ทุกประเภท วิสกี้ เบียร์ จิน แชมเปญ และอื่นๆอีกมากมาย ในราคาย่อมเยา รับประกันสินค้าแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ สนใจติดต่อสอบถาม เบอร์โทรศัพท์: 0827103675 LINE: @Siamsips

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ไวน์มีกี่ประเภท

ไวน์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

ไวน์สามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลักดังต่อไปนี้

1. ไวน์แดง
2. ไวน์ขาว
3. ไวน์โรเซ่
4. สปาร์คกลิ้งไวน์
5. ไวน์หวาน

ไวน์ขาวและไวน์แดงแตกต่างกันอย่างไร

ไวน์ขาวและไวน์แดงมีข้อแตกต่างกันหลายประการทั้งกระบวนการผลิตสีสันและรสชาติ รวมไปถึงสายพันธ์ุขององุ่นที่นำมาใช้ในการผลิต โดยที่

• ไวน์แดงจะหมักบ่มทั้งเปลือก เมล็ดและขั้วองุ่น จึงทำให้ไวน์แดงมีสีแดงหลากหลายเฉดสีตั้งแต่แดงทับทิม สีแดงโกเมน สีม่วงทึบ ไวน์แดงจะหมักที่อุณหภูมิสูงเพื่อสกัดเอาสี กลิ่น และรสฝาดของเทนนินออกมา จึงมีรสชาติที่เข้มข้นชัดเจน
• ไวน์ขาวเป็นไวน์ที่หมักบ่มจากองุ่นสีเขียว หรืออาจใช้องุ่นสีม่วง หรือองุ่นดำที่เอาเปลือกออกก่อนการหมักบ่ม ไวน์ขาวมีสีขาวออกครีม สดใส มีเทนนินน้อยมาก มีความเป็นกรดสูง ให้รสชาติสดชื่นของผลไม้เมืองร้อน บางยี่ห้อให้กลิ่นครีมมี่คล้ายวนิลลา ไวน์ขาวจึงมีรสชาติที่บางเบาให้ความสดชื่นมากกว่า

ไวน์ขาวควรกินคู่กับอะไรดี

ความเปรี้ยวเย็นสดชื่นของไวน์ขาว ช่วยตัดรสอาหารที่มีรสจัดและลดความคาวของอาหารทะเลได้ดีจึงควรกินคู่กับอาหารเหล่านี้ เช่น สเต๊กปลา อาหารทะเล ขนมปังขาว ชีสต่างๆ อาหารที่มีเครื่องเทศเผ็ดร้อน เช่น อาหารเอเชีย